รวบ 4 ผู้ต้องหาแก๊งฆ่าโหด “เต็กอ้าน” ปิดปากเงียบ อ้างแค่ทะเลาะกัน ถูกผู้ตายขู่ฆ่าก่อน

รวบ 4 ผู้ต้องหาแก๊งฆ่าโหด “เต็กอ้าน” ปิดปากเงียบ อ้างแค่ทะเลาะกัน ถูกผู้ตายขู่ฆ่าก่อน

จากกรณี ชาวพบศพผู้เสียชีวิตในสภาพเน่าเปื่อย ที่บริเวณป่ารกทึบ ริมถนนบ่อแร่ – เขาขาด หมู่ที่ 6 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต คาดว่าเสียชีวิตมากว่า 1 เดือน โดยมีหลักฐานเป็นเสื้อและแหวน ติดตัวศพ ขณะที่มือ และ เท้า ถูกผูกด้วยเชือกในล่อน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำตรวจ สภ.วิชิต ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายสถาพร ยินดี (เต็กอ้าน) อายุ 24 ปี อดีตม้าทรงของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยมีการแจ้งความคนหายไว้ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2562 โดยหายออกจากบ้าน ตั้งแต่ 15 มีนาคม 62

อย่างไรก็ตามหลังทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต 

และ สภ. วิชิต จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนและคลี่คลายคดี เพื่อติดตามคนร้ายที่สังหารโหด นายสถาพร ยินดี (เต็กอ้าน) ในครั้งนี้ โดยเชิญตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตไปสอบเครียด จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นใครบ้าง ล่าสุดวันนี้ ( 4 มิ.ย.) พ.ต.อ.วิทูร กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้วฉ้วย ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต สภ.วิชิต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุจำนวน 4 คน พร้อมยึดรถยนต์ของกลางซึ่งใช้ในการนำศพไปทิ้ง 1 คัน

ประกอบด้วย นายศุกลพงศ์ หรือ บีช แก้วสุวรรณ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต นายพีระวัฒน์ หรือ แซม แซ่ว่อง อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดพังงา นายสุกเร หรือ ซุก จิตร์นารี อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และ นายนฤเบศร์ หรือ โล เพชรมาก อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย

พ.ต.อ.วิทูร กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. มีคนพบศพผู้เสียชีวิตถูกฆ่าทิ้งในป่า ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ทำให้คดีนี้ยากต่อการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดเป็นอย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ละความพยายาม รวบรวมพยานหลังฐาน และสืบสวนจนทราบว่าผู้ตายเป็นใคร และ สืบจนทราบตัวคนร้าย สามารถนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ ในเบื้องต้นทางผู้ต้องหายังไม่ให้การอะไรมาก ระบุแต่เพียงว่าเป็นการทะเลาะกันในกลุ่มเพื่อนซึ่งมีระยะมาพอสมควร และผู้ตายเคยขู่จะฆ่า จนเกิดความอึดอัดและได้ลงมือทำร้ายร่างกาย ส่วนสาเหตุที่แต่จริงทางเจ้าหน้าที่คงต้องสอบสวนต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า นายสถาพร ยินดี (เต็กอ้าน) ได้หายออกจากบ้านพักโดยมีเพื่อนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหามารับไปที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ฉลอง เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 15 มี.ค. 62 หลังจากนั้นกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาได้ร่วมกันทำร้ายโดยใช้ไม้เบสบอลทุบจนเสียชีวิต ก่อนนำศพขึ้นรถหรู ไปทิ้งเพื่ออำพรางคดี หลังจากนั้นทุกคนก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ จนกระทั่งมีคนไปพบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว และนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย

ศพเด็ก 6 ขวบถูกเจาะกะโหลก คาดแก๊งคุณไสยเอาไปทำปั้นเหน่ง ยายร่ำไห้ขอคืน

เมื่อเช้าวันนี้ (2 มิ.ย.) นางอุไรรัตน์ สวรรณหงส์ อายุ 45 ปี ยายของด.ช.ศุกลวัฒน์ อยู่ศรีเจริญ หรือ น้องเก้า อายุ 6 ปี 9 เดือนได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่เมรุวัดส่งเสริมธรรม บ้านใหม่ศรีวิไล จ.อุดรธานี ถึงเรื่องที่มีกลุ่มคนเจาะกะโหลกศพหลานและขโมยไป ซึ่งตนคาดว่านำไปทำปั้นเหน่ง และขอร้องให้นำมาคืนเพราะอยากเผาศพหลานที่มีอวัยวะครบ

นางอุไรรัตน์เล่าว่าเมื่อตอนที่น้องเก้ายังมีชีวิตอยู่นั้น ก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เพราะพ่อแม่แยกทางกัน พ่อไปมีภรรยาใหม่ แม่ถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติด ขณะที่ตนไปรับจ้างตัดอ้อยที่พิษณุโลก โดยยายทวดเป็นคนดูแลน้องเก้า และเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา น้องเก้าจมน้ำเสียชีวิตหลังไปเล่นสระน้ำท้ายหมู่บ้านกับเพื่อน

ตามพิธีทางภาคอีสานหากผู้ตายตายผิดธรรมชาติ ร่างจะถูกนำมาฝังหรือเข้าเบ้าปูน 1-3 ปี จากนั้นค่อยขุดนำขึ้นมาฌาปนกิจ และตนก็ต้องการให้แม่ของหลานพ้นโทษออกมาร่วมพิธีด้วย โดยตนก็เพิ่งทำบุญอุทิศส่วนกุศลครบ 100 วัน ให้น้องเก้าเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

เมื่อ 2 วันก่อน หลวงปู่ถนอม เจ้าอาวาสวัดส่งเสริมธรรมได้ให้ชาวบ้านมาแจ้งว่าเบ้าปูนที่บรรจุศพแตกและให้ตนมาโบกปูนปิด และตนได้นำปูนมาโบกเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ซึ่งตนได้ไปส่องดูศพหลาน และพบว่ากะโหลกถูกเจาะออก บริเวณหน้าผาก ญาติพี่น้องเชื่อกันว่าน่าจะเป็นแก๊งทำคุณไสยที่ต้องการนำชิ้นส่วนนี้ไปทำปั้นเหน่ง

นางอุไรรัตน์กล่าวว่าน้องเก้าเป็นเด็กดี และรู้สึกสงสารหลานมาก และยิ่งสงสารเมื่อมาเจอเหตุการณ์นี้ เพราะเชื่อว่าหลานต้องถูกสะกดวิญญาณ จึงฝากถึงคนที่มาลักกะโหลกหลานไป ให้นำมาคืน เพราะเมื่อถึงเวลาเผา หลานจะได้มีร่างกายครบ 32 และฝากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้

ด้านเจ้าอาวาสวัด เล่าว่า เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ตนได้เดินตรวจความเรียบร้อยและพบว่าเบ้าปูนแตก ซึ่งขณะนั้นคิดว่าเป็นเพราะความร้อนหรือกิ่งไม้ตกใส่ จึงได้ให้คนไปตามยายเด็กมาโบกปูนปิด ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่จำพรรษาที่นี่มา

ขณะที่ตำรวจอุดรฯ ระบุว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ โดยครั้งนี้คนร้ายได้รื้อค้นเสื้อผ้า กระเป๋านักเรียนของผู้ตาย นำมาทิ้งไว้ภายนอกเบ้าปูน คิดว่าน่าจะเป็นพวกนิยมคุณไสยมนตร์ดำ หรือได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ามา เมื่อปี 2557 ก็มีเหตุลักษณะคล้ายกันนี้ในป่าช้าอ.ประจักษ์ศิลปาคม อ.กุมภวาปี และ อ.น้ำโสม ซึ่งคนร้ายเหล่านี้ถูกดำเนินคดีและพ้นโทษหมดแล้ว คาดว่าน่าจะจับตัวได้เร็วๆ นี้

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม